แชร์

นักศึกษา ปรม. รุ่น 23 ร่วมมือชุมชนพัฒนาธุรกิจ พลิกวิกฤตปลาหมอคางดำ ผลิตข้าวเกรียบใจบุญ ลดเหลื่อมล้ำสร้างรายได้ให้ชุมชน

อัพเดทล่าสุด: 7 ต.ค. 2024

นายวิทวัส ชัยภาคภูมิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า หลักสูตรการบริหารงานภาครัฐและกฎหมายมหาชน ของสถาบันพระปกเกล้า มีพันธกิจ คือ การอบรมผู้นำหรือนักศึกษาที่มีศักยภาพ โดยเป็นข้าราชการระดับซี 9 ขึ้นไป หรือเป็นผู้บริหารขององค์กรทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน ให้มีความรู้ ทักษะและความสามารถที่จำเป็นของการเป็นผู้นำในด้านการเสนอแนะนโยบาย และการนำนโยบายไปปฏิบัติ ทั้งนี้ หลักสูตรดังกล่าวนักศึกษาจะมีการนำเสนอโครงงานกลุ่มเชิงปฏิบัติการของหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูง โดยเน้นให้นักศึกษาทำโครงงานโดยการลงพื้นที่จริง เพื่อทำงานที่เป็นประโยชน์กับภาคสังคมอย่างแท้จริง และที่สำคัญคือเป็นโอกาสที่ผู้บริหารทั้งหมดมีโอกาสมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ใช้เครือข่ายที่เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ต่อภาคประชาสังคม ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยในด้านรายได้ การศึกษา เป็นต้น

ดังเช่นนักศึกษาโครงงานกลุ่มเชิงปฏิบัติการของหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูง การบริหารงานภาครัฐและกฎหมายมหาชน (ปรม.) รุ่นที่ 23 ที่ได้รวมตัวกันนำเสนอโครงงานการพลิกวิกฤตปลาหมอคางดำ โดยการจับมือพัฒนาธุรกิจผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบใจบุญจากปลาหมอคางดำร่วมกับท้องถิ่น คือ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรสวนนอก จังหวัดสมุทรสงคราม นำองค์ความรู้เรื่องการแปรรูป วางแผนการผลิต ออกแบบผลิตภัณฑ์ วางแผนการตลาดถ่ายทอดสู่กลุ่ม ฯ สามารถนำปัจจัยที่เป็นปัญหาต่อสภาพแวดล้อม และกระทบต่อเศรษฐกิจของท้องถิ่นและประเทศอย่างปลาหมอคางดำแปรเปลี่ยนเป็นรายได้ให้ชุมชน และชุมชนสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากการถ่ายทอดไปต่อยอดเป็นอาชีพอื่น ๆ ได้อีก ช่วยสร้างรายได้ต่อตนเองและท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน สมดังเจตนาของสถาบันพระปกเกล้าด้านการสร้างโอกาส เพิ่มศักยภาพให้ภาคประชาสังคม ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้ ช่วยให้สังคมอยู่ดีมีสุขมากยิ่งขึ้น ก่อเกิดประโยชน์ตั้งแต่ระดับชุมชนไปจนถึงระดับประเทศ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้ากล่าว

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปัณรส มาลากุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการหลักสูตร ปรม. และที่ปรึกษาโครงการ ฯ กล่าวว่า นักศึกษา ปรม. รุ่นที่ 23 สถาบันพระปกเกล้า พ.ศ.2567 ได้ศึกษาสถานภาพปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ และทำความเข้าใจปัญหาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยการลงพื้นที่ทำงานร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสวนนอก ที่จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นพื้นที่ ๆ มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก เพื่อทำความเข้าใจปัญหาและเพื่อเข้าถึงปัญหาความเดือดร้อนที่แท้จริง ทำความร่วมมือกับทั้งภาคเอกชน เครือข่ายภาครัฐอย่างมีธรรมาภิบาล จึงพบว่า การป้องกันและการแก้ไขปัญหาไม่สามารถทำได้อย่างเห็นผลเป็นรูปธรรม นำมาซึ่งการสร้างเครือข่ายผนึกกำลัง พลิกวิกฤตเป็นโอกาสโดยใช้แนวคิดการแปรรูปปลาหมอคางดำเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม จะเป็นหนทางการแก้ปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรมมีประสิทธิภาพยั่งยืนที่สุด เนื่องจากชุมชนจะได้ผลิตภัณฑ์ที่นำไปจำหน่าย หรือนำไปบริโภคเอง ซึ่งช่วยแก้ปัญหาปากท้อง สร้างรายได้ให้กับประชาชนได้รวดเร็วที่สุด

นักศึกษามีกระบวนการทำงานในเรื่องนี้อย่างเป็นขั้นตอน ตั้งแต่เทคโนโลยีการแปรรูปที่ถูกสุขอนามัย การทดสอบคุณภาพของเนื้อปลา การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การคำนวณต้นทุน การวางแผนธุรกิจ การวางแผนการตลาด ช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าออนไลน์ จนกระทั่งได้ผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบใจบุญ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ถูกสุขอนามัย ชุมชนสามารถนำไปต่อยอดปฏิบัติได้เองจริง นอกจากช่วยบรรเทาปัญหาความเดือนร้อนเรื่องการแพร่ระบาดแล้วยังสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก นับว่าเป็นการพลิกวิกฤตปลาหมอคางดำให้เป็นโอกาสอย่างแท้จริง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปัณรส กล่าว

ผอ.หลักสูตร ปรม. และที่ปรึกษาโครงการ ฯ กล่าวสรุปว่า การปฏิบัติงานในโครงงาน ฯ ที่กล่าวถึงข้างต้น ช่วยส่งเสริมองค์ความรู้ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านความเป็นพลเมือง โดยส่งเสริมการร่วมคิดร่วมทำ เสริมสร้างศักยภาพที่จะพัฒนาธุรกิจแปรรูปให้กับชุมชน ด้านประชาธิปไตย โดยการมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น เสนอแนวทางแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล และตัดสินใจร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนเพื่อบริหารจัดการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนภายใต้ความเป็นประชาธิปไตย และ ด้านธรรมาภิบาล

โดยกำหนดนโยบายและการบริหารภาครัฐในการบริหารความเสี่ยงจากกิจกรรมที่ส่งผลต่อระบบนิเวศ มีระบบบริหารจัดการในการป้องกัน แก้ไข บำบัด ฟื้นฟู ที่ตรวจสอบได้ และทุกภาคส่วนได้บูรณาการการทำงานร่วมกัน ทำให้วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่มีความความรับผิดชอบต่องานที่ทำอย่างจริงจัง คาดหวังว่าการสร้างเครือข่ายของผู้ที่มีศักยภาพเพื่อพัฒนาชุมชน จะทำให้ท้องถิ่นมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น เพื่อต่อยอดให้สังคมดีขึ้นด้วย


ด้านนางบุปผา ไวยเจริญ ปะธานศูนย์เรียนรู้วิสาหกิจชุมชนเกษตรสวนนอก อ.บางคนที เปิดเผยว่า นักศึกษา ปรม. รุ่นที่ 23 สถาบันพระปกเกล้า พ.ศ.2567 ได้นำองค์ความรู้มาช่วยแปรรูปปลาหมอคางดำ จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบใจบุญ เริ่มตั้งแต่การได้ร่วมพูดคุยแก้ปัญหาร่วมกัน จนได้แนวทางแก้ไขปัญหาและถ่ายทอดองค์ความรู้ให้สมาชิก เริ่มตั้งแต่เทคโนโลยี ขั้นตอน วิธีการผลิตข้าวเกรียบจากปลาหมอคางดำให้ถูกสุขลักษณะได้มาตรฐานสินค้าในที่สุด

นอกจากนี้ยังได้ถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องการแปรรูปและการทำตลาดไปสู่กลุ่มอื่นๆในจังหวัดอีกหลายกลุ่มด้วย ช่วยให้สมาชิกเกษตรกรทุกเพศ ทุกวัย เกิดความมั่นใจและกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ พร้อมจะพัฒนาศักยภาพตนเองเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตไปพร้อม ๆ กัน เกิดแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ที่สำคัญได้เรียนรู้ว่าการร่วมมือกันจะช่วยให้ผ่านพ้นปัญหาต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี



บทความที่เกี่ยวข้อง
ม.เกริก จัดประชุมวิชาการนวัตกรรมและเทคโนโลยี ฯ ครั้งที่ 20 ระดมสมองสร้างคน สร้างชาติ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
ม.เกริก ตอกย้ำปรัชญาความรู้คู่คุณธรรม จัดประชุมวิชาการนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อสังคมที่ยั่งยืน ครั้งที่ 20 มุ่งประสานแนวร่วมทั้งระดับชุมชนและระดับนานาชาติ บูรณาการองค์ความรู้ หนุนบุคลากรที่มีจริยธรรม เพื่อแลกเปลี่ยนนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพ นำไปใช้ได้พัฒนาชุมชนจนถึงระดับประเทศได้อย่างมั่นคงยั่งยืน
16 ธ.ค. 2024
สกสว. ขานรับนโยบายกระทรวง อว.  ร่วมขับเคลื่อนประเทศ  เสริมศักยภาพนักวิจัยรุ่นใหม่ หนุนงานวิจัย พัฒนาเศรษฐกิจ สังคม  สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม จัดประชุมเครือข่ายบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประจำปี พ.ศ.2567
นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังมุ่งสู่การเป็นสังคมฐานนวัตกรรม หลายภาคส่วนทั้งภาคอุตสาหกรรมและบริการต้องอาศัยนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ มาประยุกต์ใช้เพื่อให้ก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงในอนาคต การวิจัยจึงถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความก้าวหน้า ดังนั้นกระทรวง อว. จึงให้ความสำคัญต่อการสร้างและพัฒนากำลังคนทักษะสูงโดยเฉพาะในสาขาที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ เช่น วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีวิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM) รวมถึงด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปะศาสตร์ ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคมที่ยั่งยืน
24 พ.ย. 2024
วิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ มหาวิทยาลัยเกริก จัดประชุมวิชาการนานาชาติ แลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างวัฒนธรรมมุ่งรวมความหลากหลายให้เป็นหนึ่ง
วิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ โดย สำนักงานการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยเกริก ร่วมกับ สถาบันวะสะฏียะฮ์เพื่อสันติภาพและการพัฒนา สำนักจุฬาราชมนตรี สมาพันธ์ศิษย์เก่าอัล-อัซฮัรโลก สาขาประเทศไทย ศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสมาคมมหาวิทยาลัยมุสลิมแห่งเอเชีย ร่วมจัดการประชุมวิชาการระดับนานาชาติครั้งที่ 2 หัวข้อ "การอยู่ร่วมกันของชนกลุ่มน้อยมุสลิมในกลุ่มประเทศ Non-Muslim States ในเอเชีย: เอกภาพ สันติภาพ การเคารพ และความเข้าใจซึ่งกันและกัน" ณ มหาวิทยาลัยเกริก
13 ก.ย. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy